การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์
การเตรียมตัวก่อนตั้งท้องเพื่อสุขภาพครรภ์และสุขภาพทารกที่ดีที่สุด
ถ้าในตอนนี้คุณยังไม่ตั้งครรภ์ การเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดคือ
ต้องทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ความสนุก ในการพยายามมีบุตร
แต่ถ้าตั้งครรภ์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะการตั้งครรภ์ในรายการคู่มักมาโดยไม่ทันตั้งตัว
ให้มุ่งไปที่วิธีการดูแลครรภ์แทน
การเตรียมตัวสำหรับคุณแม่
เป้าหมายหลักการของเตรียมตัวคุณแม่ คือ ให้มั่นใจว่าร่างกายของแม่พร้อมจะดูแลทารกน้อยในครรภ์
· พบทันตแพทย์ให้ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง เพราะการตั้งครรภ์มีผลต่อสุขภาพฟัน
ฮอร์โมนตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันได้
·
ตรวจสอบประวัติการเป็นโรคซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมของทั้งสองครอบครัว ได้แก่ โรคดาวน์ซินโดรม (Down
syndrome), โรคเม็ดเลือดผิดรูป (sickel cell anemia), โรคธาลัสซีเมีย (thalassemia), hemophilia,
cystic fibrosis, muscular dystrophy
· ตรวจยีนโรคพันธุกรรมที่จำเป็น เช่น ธาลัสซีเมีย
สำหรับคุณแม่ที่เคยมีปัญหาตั้งท้องยาก เช่น เคยแท้งมากกว่า
2 ครั้ง ลูกตายแรกคลอด ผสมไม่ติดเป็นเวลานาน หรือลูกเกิดมาร่างกายบกพร่อง
หรือกรณีเป็นญาติแต่งงานกันเอง ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านยีน
·
ตรวจสุขภาพทั่วไป การตรวจที่จำเป็นสำหรับคุณแม่นั้นส่วนใหญ่จะทำได้ง่ายด้วยการตรวจเลือด
ได้แก่
o
ตรวจค่า hemoglobin
หรือ ฮีมาโตคริต เพื่อดูว่าเป็นโลหิตจางหรือไม่
o
ตรวจค่า Rh
factor ว่าเป็นบวกหรือลบ ถ้าแม่เป็นลบและพ่อเป็นบวกต้องทำการทดสอบเพิ่มเติม
ถ้าพ่อและแม่เป็นลบ ไม่มีปัญหาใด
o
ตรวจไวรัสตับอักเสบ hepatitis
B
o
ตรวจวัณโรค (tuberculosis)
o
ตรวจ toxoplasmosis
titer สำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดแมว
o
ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์
เพราะสามารถกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้
o
ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เช่น syphilis, gonorrhea, Chlamydia, herpes, HPV human papillomavirus
และโรคเอดส์ HIVหากตรวจพบว่าเป็นโรคหรือมีปัญหาใดๆ
ควรแก้ไขก่อนการตั้งครรภ์จะเกิดขึ้น
·
การทำวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
o
ทำวัคซีนบาดทะยัก หากภายใน 10
ปี ที่ผ่านมาคุณแม่ยังไม่ได้ทำวัคซีน ต้องทำทันทีก่อนตั้งครรภ์
o
ทำวัคซีนหัด (measle)
และรอประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อโรคก่อนตั้งครรภ์
o
ควรทำวัคซีน
hepatitis B
o
ควรทำวัคซีน
human papilloma virus
o
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง
เช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ ควรพบแพทย์เพื่อควบคุมอาการของโรคดังกล่าวก่อนการตั้งครรภ์
สำหรับผู้หญิงที่ใช้ยาคุมสามารถตั้งครรภ์ได้ทันทีที่หยุดยาคุมหรือจะรอจนครบรอบประจำเดือน
1-2 รอบก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดหรือข้อห้าม
·
การควบคุมด้านอาหาร
ก่อนตั้งท้องไม่จำเป็นต้องกินเผื่อลูกในท้องในอนาคต แต่ควรทานอาหารที่มีสารอาหารสำคัญคือ กรดโฟริก
เพราะช่วยให้การปฏิสนธิเกิดได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความผิดปกติขณะสร้างระบบประสาทของลูกด้วย
และช่วยลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด กรดโฟลิกพบได้ในธัญพืช และผักใบเขียว
หรือจะทานเป็นอาหารเสริมแบบเม็ดก็ได้ งดทานอาหารขยะที่มีไขมันสูง ทานผลไม้นมพร่องมันเนยเสริมสร้างกระดูกและฟัน
·
การควบคุมน้ำหนัก
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปนอกจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ยากแล้ว
ยังเสี่ยงให้เด็กเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
การควบคุมอาหารที่ให้พลังงานจึงสำคัญก่อนตั้งท้อง ถ้าต้องลดน้ําหนัก ให้ลดน้ำหนักอย่างช้าๆและเหมาะสม แม้ว่าจะต้องเลื่อนการตั้งครรภ์ออกไปนานขึ้น
1-2 เดือน การลดแป้งและทานโปรตีนมากๆ
อาจทำให้ท้องได้ยากและขาดสารอาหาร หากผอมเกินไปจะมีผลต่อการตกไข่ได้ การออกกำลังกายควรให้กล้ามเนื้อแข็งแรงเพียงพอสำหรับการอุ้มท้องและการเบ่งคลอด
·
ตรวจสอบตู้ยา
ยาบางประเภทไม่ปลอดภัยหากใช้ขณะตั้งครรภ์
อาจทำให้ทารกพิการมีปัญหา หากมีการใช้ยาประจำ
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาให้เหมาะสม ควรงดคาเฟอีน กาแฟ ชา สุรา และบุหรี่